ไข้เลือดออก โรคฮิตที่มาพร้อมกับฤดูฝน
บทความสุขภาพ
ไข้เลือดออก โรคฮิตที่มาพร้อมกับฤดูฝน
ใกล้จะเข้าช่วงหน้าฝน ซึ่งเป็นฤดูที่มาพร้อมกับสภาพอากาศชื้นแฉะ ทำให้ยุงลายเพาะพันธุ์และระบาดได้ง่ายขึ้น หนึ่งในโรคที่พบระบาดอย่างรุนแรงในช่วงนี้คือ “ไข้เลือดออก” ซึ่งเป็นโรคที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ โรคนี้อาจดูเหมือนไม่ร้ายแรงในตอนแรก แต่หากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงที ก็สามารถก่อให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้
อาการของไข้เลือดออก
ระยะเวลาของอาการ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระยะ
- ระยะไข้ : ระยะนี้จะอยู่ในช่วง 2-7 วัน ผู้ป่วยจะมีไข้สูงเกิน 38.5 องศาเซลเซียส บางรายอาจพุ่งสูงถึง 40-41 องศาเซลเซียส ในระยะนี้ผู้ป่วยมักจะไม่ค่อยตอบสนองต่อยาลดไข้ และอาจมีอาการ คลื่นไส้, อาเจียน, เบื่ออาหาร, มีจุดเลือด หรือผื่นขึ้นตามผิวหนังของร่างกาย
- ระยะวิกฤต : เป็นระยะที่ควรเฝ้าระวังมากที่สุด เพราะผู้ป่วยจะเกิดอาการเพลีย, ปัสสาวะน้อย และมีอาการปวดท้อง ในผู้ป่วยบางรายจะมีอาการเลือดกำเดาไหล หรืออุจจาระเป็นเลือด โดยระยะนี้ไข้จะเริ่มลดลง แต่อาจส่งผลให้เกิดความดันโลหิตต่ำ, มือเท้าเย็น จนนำไปสู่อาการช็อกจนถึงแก่ชีวิตได้
- ระยะฟื้นตัว : อาการทุกอย่างของผู้ป่วยเริ่มดีขึ้น ความดันโลหิต, การปัสสาวะ, การรับประทานอาหาร กลับมาเป็นปกติ โดยระยะเวลาโดยรวมของไข้เลือดออกจะอยู่ที่ 7-10 วันโดยประมาณ

การป้องกัน โรคไข้เลือดออก
- หมั่นดูแลความสะอาดบริเวณรอบบ้าน ไม่ให้มีน้ำขังตามภาชนะ แอ่งดินที่แหล่งน้ำท่วมขังได้ง่าย
- ฉีดยาพ่นไล่แมลง
- เลี้ยงปลาหางนกยูงในบ่อน้ำ
- ทิ้งขยะให้เป็นที่ มัดปากถุงให้มิดชิด ไม่สร้างแหล่งเพาะพันธุ์ยุง
- ตรวจสอบประตู หน้าต่าง ลดช่องทางที่ยุงสามารถเข้ามาในบ้านได้
การรักษา โรคไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกนั้น เราสามารถรักษาตามอาการ ไม่ให้อาการรุนแรงจนหายดีได้ หมั่นเช็ดตัว ดื่มน้ำบ่อยๆ ให้ยาลดไข้พาราเซตามอล ผู้ป่วยที่มาโรงพยาบาลแต่เนิ่นๆ จะช่วยลดภาวะ เลือดออก และช็อค ที่แทรกซ้อนได้ นอกจากนี้ในปัจจุบันเรามีวัคซีนป้องกันไข้เลือดออกแล้ว โดยผู้สนใจรับวัคซีนควรปรึกษาแพทย์ก่อนเข้ารับวัคซีน
ข้อควรระวัง : ไม่ควรซื้อยาทานเอง โดยเฉพาะยาประเภท NSAIDs หรือ แอสไพริน ไอบูโรเฟน เพราะสารในตัวยาจะกระตุ้นให้มีเลือดออกมากขึ้น อันตรายถึงชีวิตได้
การระบาดของโรคไข้เลือดออกมักทวีความรุนแรงในช่วงหน้าฝน ไข้เลือดออกอาจดูไม่อันตรายร้ายแรงกับผู้ที่เคยเป็นมาก่อน แต่สำหรับผู้อื่นเราไม่สามารถมั่นใจได้ว่า หากเป็นแล้วจะมีอาการรุนแรงหรือไม่ โดยเฉพาะเด็ก ดังนั้นเราจึงต้องดูแล และป้องกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดวัคซีนป้องกันไข้เลือดออก, การทายากันยุง หรือการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เพื่อให้เรากับบุคคลภายในบ้านปลอดภัย และห่างไกลจากโรคนี้
ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา