เทคนิคคุมโรคเบาหวาน ด้วยการกินแบบ IF
บทความสุขภาพ
18 พ.ย. 2568
ครั้ง
เทคนิคคุมโรคเบาหวาน ด้วยการกินแบบ IF
โรคเบาหวาน มักเกี่ยวข้องกับการควบคุมระดับน้ำตาลและอินซูลินในร่างกาย การกินแบบกำหนดเวลา หรือ Intermittent Fasting (IF) ได้รับความสนใจอย่างมากในฐานะเครื่องมือที่อาจช่วยเพิ่มความไวของร่างกายต่ออินซูลิน และช่วยให้การควบคุมเบาหวานมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การทำ IF ในผู้ป่วยเบาหวานต้องทำด้วยความระมัดระวังและอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น
การทำ IF ส่งผลดีต่อการควบคุมเบาหวานผ่านกลไกหลัก ๆ ดังนี้ :
- ลดภาวะดื้ออินซูลิน : ช่วงอดอาหารจะช่วยลดระดับอินซูลินในเลือดลง ทำให้เซลล์ของร่างกายตอบสนองต่ออินซูลินได้ดีขึ้น (เพิ่มความไวต่ออินซูลิน) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการจัดการโรคเบาหวานชนิดที่ 2
- ลดน้ำหนักตัว : IF มักช่วยลดปริมาณแคลอรี่รวมที่รับประทานต่อวัน ซึ่งนำไปสู่การลดน้ำหนัก และการลดไขมันช่องท้อง (Visceral Fat) ที่เป็นสาเหตุสำคัญของภาวะดื้ออินซูลิน
- ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด : การจำกัดช่วงเวลาการกินช่วยให้ร่างกายมีช่วงเวลาที่ระดับน้ำตาลคงที่ยาวนานขึ้น

รูปแบบ IF ที่แนะนำสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน
ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรเริ่ม IF ด้วยรูปแบบที่รุนแรง ควรเลือกรูปแบบที่ง่ายและมีช่วงเวลากินที่ยาวนานพอสมควร เช่น :
- IF 12/12 : อดอาหาร 12 ชั่วโมง กิน 12 ชั่วโมง (เช่น กินระหว่าง 8:00 – 20:00 น.) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ปลอดภัยที่สุด
- IF 14/10 : อดอาหาร 14 ชั่วโมง กิน 10 ชั่วโมง (เช่น กินระหว่าง 10:00 – 20:00 น.)

ข้อควรระวังสูงสุดและสัญญาณอันตราย
การทำ IF ในผู้ป่วยเบาหวานมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนที่ต้องระวัง :
- ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia) : หากคุณใช้ยาลดน้ำตาลในเลือด (เช่น Sulfonylureas) หรืออินซูลิน การอดอาหารอาจทำให้ระดับน้ำตาลต่ำจนเกิดอาการหน้ามืด ใจสั่น เหงื่อออกมาก หรือหมดสติได้ ต้องปรับลดยาภายใต้การดูแลของแพทย์ก่อนเริ่ม IF
- ภาวะขาดน้ำ : ต้องมั่นใจว่าดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอในช่วงอดอาหารเพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ
- ภาวะเลือดเป็นกรดจากคีโตน (Ketoacidosis) : แม้จะพบน้อย แต่ผู้ป่วยเบาหวานบางรายมีความเสี่ยงนี้ ควรเฝ้าระวังอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียน และรีบพบแพทย์ทันทีหากมีอาการ

เคล็ดลับการกินในช่วง "เวลาเปิด"
ช่วงเวลาที่อนุญาตให้กินอาหาร ต้องเน้นคุณภาพอาหารเพื่อส่งเสริมการควบคุมเบาหวาน :
- เน้นโปรตีนและไขมันดี : เพื่อช่วยให้อิ่มนานและรักษามวลกล้ามเนื้อ เช่น เนื้อปลา ไข่ ถั่ว และอะโวคาโด
- เลือกคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน : ข้าวกล้อง ธัญพืชไม่ขัดสี และผักใบเขียว
- จำกัดน้ำตาลและแปรรูป : หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลสูง และอาหารแปรรูปที่อาจไปทำลายประโยชน์ที่ได้จากการทำ IF

ติดตาม โซเชียลเน็ตเวิร์ก ของเรา